วันนี้ทีมงาน GCLUB ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่าน... เผยคลิป
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อพบคนโดนน้ำกรดสาด ควรทำอย่างไรบ้าง ชี้
ต้องมีสติอย่าตกใจ สำคัญสุดอย่าใช้น้ำราดไปที่แผลทันที แต่ให้ใช้กระดาษหรือผ้า
ซับน้ำกรดออกให้ได้มากที่สุด ป้องกันเนื้อเยื่อได้รับอันตราย
จากเหตุการณ์ที่
น.ส.ช่อลัดดา ซึ่งถูกนายคำตัน สามี เอาน้ำกรดสาดที่ใบหน้าเพราะความหึงหวง ซึ่งทาง
น.ส.ช่อลัดดา ได้เดินทางไปกับลูกสาววัย 12 ปี เพื่อไปที่โรงพยาบาลบางมด
แต่แท็กซี่เห็นว่าอาการหนักจึงนำส่งโรงพยาบาลพระราม 2 ที่ใกล้ที่สุด
สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้รักษา และต้องขึ้นแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาลบางมด
ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมากนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้
(12 พฤศจิกายน 2561) ได้โพสต์คลิปวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อพบคนโดนน้ำกรดสาด
หรือตนเองโดนน้ำกรดสาดเอง ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้
โดยอันดับแรก
ควรมีสติอย่าตกใจ และที่สำคัญอย่าใช้น้ำราดไปที่แผลทันที
เพราะอาจจะทำให้เนื้อเยื่อได้รับอันตรายมากขึ้น
หากพบว่าเป็นกรดที่มีความเข้มข้นสูง
ควรใช้กระดาษหรือผ้าซับน้ำกรดออกให้ได้มากที่สุด ซึ่งมีทั้งหมด 6 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่
1 : ตั้งสติ อย่าตกใจ ประเมินสถานการณ์ว่าสามารถเข้าช่วยเหลือได้หรือไม่ และโทร.
ขอความช่วยเหลือที่เบอร์ 1669
ขั้นตอนที่
2 : ตัดเสื้อผ้าของผู้ได้รับบาดเจ็บ ในบริเวณที่ถูกสาดน้ำกรดออก หากมีถุงมือหรือถุงพลาสติกให้สวมใส่เพื่อป้องกันตนเองด้วย
ขั้นตอนที่
3 : ใช้ผ้าหรือกระดาษสะอาด เช็ดทำความสะอาดน้ำกรดออกให้ได้มากที่สุด
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำในทันที เพื่อป้องกันในกรณีเป็นกรดที่มีความเข้มข้นสูง
เพราะอาจจะทำให้เนื้อเยื่อได้รับอันตรายมากขึ้น
ขั้นตอนที่
4 : ใช้น้ำสะอาดปริมาณมาก ล้างในบริเวณที่ถูกน้ำกรดสาด หลีกเลี่ยงการถูหรือขัด
เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อถูกทำลายมากขึ้น
ขั้นตอนที่
5 : ใช้ผ้าสะอาด หรือผ้าก๊อซปิดแผล
ขั้นตอนที่
6 : รอรถพยาบาล หรือถ้าสามารถนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้ให้นำส่งโดยทันที
ขณะที่
เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าว
พร้อมแสดงความคิดเห็นด้วยว่า "อันนี้คนไทยจำเป็นต้องรู้
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกสาดกรด ควรทำยังไง จริง ๆ บ้านเรานี่หาซื้อกรดง่าย
เพราะมันถูกเอาไปใช้ในการแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตรเยอะนะเนี่ย
ยิ่งกรดกัดยางนี่หาซื้อง่ายยังกับอะไรดี"
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : health.kapook






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น