วันนี้ทีมงาน GCLUB มีข้อมูลข่าวสารดีๆ มานำเสนอท่านผู้อ่านทุกท่าน... จากกรณี
เพจทนายนิด้า แฉหมอใหญ่ข่มขืนคนไข้ สาวในคลินิกระหว่างตรวจภายใน
แต่อ้างใช้จู๋ปลอมและมีการสวมถุงยางสอดใส่เท่านั้น
ซึ่งก็เพื่อลดความเจ็บปวดตอนตรวจ และเมื่อหญิงสาวจะเอาเรื่องกลับถูกเสนอเงิน
50,000 บาท เพื่อเป็นการปิดปากไม่ให้เอาเรื่อง
ซึ่งต่อมาหมอใหญ่รายนี้เข้ามอบตัวแล้ว
แต่ยังปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น (อ่านข่าว : มอบตัวแล้ว หมอหื่นข่มขืนคนไข้ เจอ 2
ข้อหาหนัก เจ้าตัวขอให้การในชั้นศาล)เกี่ยวกับเรื่องนี้ (16 พฤศจิกายน 2561)
รายการเช้าชวนคุย สำนักข่าวไทย รายงานบทสัมภาษณ์ของ ศ. นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์
ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า
โดยหลักการแล้วแพทย์จะมีขั้นตอนการตรวจภายในที่เป็นมาตรฐานชัดเจน
ซึ่งหากแพทย์ฝ่าฝืนจะถือว่าผิดมาตรฐาน ผู้เสียหายสามารถไปร้องเรียนต่อแพทยสภาได้
จากนั้นแพทยสภาจะส่งเรื่องสอบถามมาตรฐานมายังราชวิทยาลัยสูติฯ
เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมกัน
ตรวจภายใน
สำหรับการตรวจภายในตามหลักการแพทย์จะประกอบด้วย
4 ขั้นตอน ดังนี้
1.
ก่อนทำการตรวจ แพทย์สูติ-นรีเวช
จะต้องวินิจฉัยอาการก่อนว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่
2.
หากจำเป็นต้องตรวจ แพทย์ต้องแจ้งขั้นตอนต่าง ๆ ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง
3.
สำคัญที่สุดต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งต้องเป็นผู้หญิง คอยอยู่ในระหว่างการตรวจภายใน
จะไม่ให้แพทย์อยู่กับผู้ถูกตรวจสองต่อสองเด็ดขาด
เพราะนอกจากจะเป็นพยานให้แพทย์แล้ว ยังทำให้ผู้ที่ถูกตรวจสบายใจอีกด้วย
และถ้าหากไม่มีบุคคลที่ 3 ผู้ตรวจต้องยืนยันไม่รับการตรวจเด็ดขาด
4.
ระหว่างตรวจแพทย์จะต้องแจงรายละเอียดขั้นตอนทุกครั้ง
เริ่มตั้งแต่คนไข้ขึ้นเตียงขาหยั่ง
จากนั้นก็แจงว่าจะตรวจภายในดูว่ามีความผิดปกติอะไรบ้าง ใช้เครื่องมืออะไรบ้าง ทั้งนี้เพื่อให้คนไข้เตรียมพร้อมและเกิดความสบายใจ
อย่างไรก็ตาม
ขอย้ำว่าไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิก จะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ทั้งหมด
หากผิดจากนี้ถือว่าผิดมาตรฐาน ยิ่งถ้าเป็นแพทย์ด้วยแล้ว
หากถูกร้องเรียนก็จะเข้าสู่แพทยสภา
ซึ่งก็ต้องมีการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : health.kapook






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น