วันนี้ทีมงาน GCLUB มีข้อมูลข่าวสารดีๆ มานำเสนอท่านผู้อ่านทุกท่าน.. “หมอจุฬาฯ”
ร้อง “บิ๊กตู่” จี้กรมทรัพย์สินทางปัญญารับผิดชอบ
หลังรับเรื่องให้บริษัทต่างชาติยื่นขอสิทธิบัตรกรณีพืชกัญชาลั่นหากให้สิทธิบัตร
ทุกอย่างที่คนไทยร่วมกันผลักดันเกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชาจะสูญสิ้นทันที
ทั้งกฎหมายต่างๆรวมไปถึงองค์การเภสัช ต้องสูญงบ 120 ล้านบาท
พ้อประโยชน์จะไม่ตกถึงคนไทย
ในขณะที่ไทยยังไม่ทันจะปลดล็อกกัญชา
จากบัญชียาเสพติดให้โทษ เพื่อให้นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้
ปรากฏว่ากรมทรัพย์สินทางปัญญากลับรับคำขอของบริษัทต่างชาติ
ที่มายื่นขอจดสิทธิบัตรสารจากกัญชาในไทย โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 พ.ย.
หลังได้รับการเปิดเผยจาก นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์คณะแพทยศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกรรมการพิจารณาการนำกัญชาไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
ว่าการเลื่อนยกระดับกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ย.ส.5) เป็นยาเสพติดให้โทษ
ประเภท 2 (ย.ส.2) ออกไปก่อนนั้นก็ถือว่าดี เพราะหากรอร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ
ฉบับของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็จะครอบคลุมมากกว่า
และจากไทม์ไลน์ก็คิดว่าน่าจะทันในรัฐบาลชุดนี้
แต่ขณะนี้สิ่งที่กังวลคือ
กลัวว่าที่พยายามผลักดันกันมาทั้งหมดจะไม่สามารถใช้ได้จริง เนื่องจากกรมทรัพย์สินทางปัญญากำลังทำบางสิ่งที่อาจส่งผลให้ประเทศเสียหายได้
ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่ต้องแจ้งนายกรัฐมนตรีด่วน
เพราะที่ผ่านมา กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้รับเรื่องจากบริษัทต่างชาติ
ที่เข้ามาขอยื่นจดสิทธิบัตรสารจากกัญชา ทั้งๆที่ทำไม่ได้ เพราะสารที่บริษัทต่างชาติมาจด
เป็นสารในธรรมชาติของกัญชา ซึ่งตามกฎหมายสิทธิบัตรไม่ได้ให้จด
แต่จะจดได้ก็ต่อเมื่อเป็นสารสังเคราะห์ ซึ่งถือว่าผิดพลาดมาก
“ที่สำคัญเมื่อบริษัทนั้นมายื่นเรื่องขอสิทธิบัตร
กรมทรัพย์สินทางปัญญากลับรับเรื่อง และตามขั้นตอนได้ประกาศในเว็บไซต์เพื่อให้มีคนมาคัดค้าน
ซึ่งให้ระยะเวลาคัดค้านคือ 90 วัน ปรากฏว่าผ่านพ้นไปแล้ว
แต่ยังเหลือขั้นตอนคัดค้านได้อีก ปัญหาคือ
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ากรมทรัพย์สินฯจะยืนฝั่งคนไทย
เพราะการกระทำแบบนี้ถือว่าผิดพลาดมาก” นพ.ธีระวัฒน์กล่าวและว่า ที่กังวลคือ
หากบริษัทต่างชาติได้สิทธิบัตร
สิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งการเดินหน้าปลดล็อกกฎหมายเพื่อผู้ป่วย
ทั้งการเดินหน้าขององค์การเภสัชกรรม ทั้งโรงงานกึ่งอุตสาหกรรม
และการพัฒนาสายพันธุ์ การสกัดสารที่ใช้งบ 120 ล้านบาท จะทำได้อยู่หรือไม่
นี่เป็นสิ่งที่น่าห่วง
ทั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ยังได้โพสต์เฟซบุ๊ก “ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat
Hemachudha” ระบุว่า
เรื่องใหญ่ที่สุดเรื่องนี้ต้องแจ้งนายกรัฐมนตรีด่วนครับ
เดี๋ยวจะเสียกัญชาให้ต่างประเทศไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องสอบถามไปยังอธิบดี
กรมทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องการปล่อยให้ต่างชาติเข้ามาถือสิทธิ์พืชสมุนไพรกัญชา
ทั้งๆที่มีการทักท้วงจากทางกระทรวงสาธารณสุขและองค์การเภสัชกรรมหลายครั้ง
ประเด็นคือ “ยังไม่ได้สิทธิบัตร” แต่อยู่ในกระบวนการ
และได้รับการคุ้มครองแล้ว!!!!!
ร้ายกว่าเรื่องที่เราพยายามจะเอามาใช้ในคนไทยด้วยซ้ำ
“เรื่องสำคัญที่สุดคือการที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาปล่อยให้ต่างชาติได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรกัญชา
แม้ทางกรมจะบอกว่ายังไม่ออกเลขสิทธิบัตรให้
แต่แง่ของกฎหมายถือว่าได้รับการคุ้มครองแล้ว ประเด็นคือ
คำขอคุ้มครองนับตั้งแต่วันยื่นคำขอแล้ว แม้ยังไม่ได้เลขสิทธิบัตรก็ตาม ทั้งที่ขัด
พ.ร.บ.สิทธิบัตร ม. 9 (1), 9 (4), 17 (4) ดังนั้น
กรมทรัพย์สินฯต้องไม่ควรปล่อยให้มันคาราคาซัง
สรุปแล้วหนทางที่ดีที่สุดกับทุกฝ่ายคือ กรมต้องดำเนินการให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.
โดยถอนคำขอมิชอบออกไปให้หมด” นพ.ธีระวัฒน์กล่าว
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : thairath







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น