'สมุนไพร' สู้มลพิษทางอากาศ - GclubTHAILAND

Gclub เว็บไซต์พนันออนไลน์การันตี อันดับ1 ของคนเล่น

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad




วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

'สมุนไพร' สู้มลพิษทางอากาศ

วันนี้ทีมงาน GCLUB มีสาระดีๆมานำเสนอผู้อ่านทุกท่าน... ท่ามกลางสถานการณ์มลพิษทางอากาศ ในทางการแพทย์แผนไทยมีสมุนไพรหลายตัวที่มีการศึกษาวิจัยพบว่ามีส่วนช่วยการดูแลสุขภาพอยู่หลายตัวที่น่าสนใจแม้ว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียงจะเริ่มทุเลาเบาบางลงแล้ว กลับไปพุ่งสูงขึ้นในหลาย ๆ จังหวัดแทน และอย่าลืมว่าการที่ค่าฝุ่นสูงไม่เกินค่ามาตรฐาน ไม่ได้แปลว่าไม่มีปัญหา ที่สำคัญคือ “มลพิษทางอากาศ” ไม่ได้มีแค่ฝุ่น PM2.5 เท่านั้น แต่ยังมีโลหะหนักประเภทอื่น ๆ อีกที่เราต้องนึกถึง

ทั้งนี้ ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรชำนาญการ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์มลพิษทางอากาศ ในทางการแพทย์แผนไทยมีสมุนไพรหลายตัวที่มีการศึกษาวิจัยพบว่ามีส่วนช่วยการดูแลสุขภาพอยู่หลายตัวที่น่าสนใจ

ตัวที่ 1 คือ “หญ้าดอกขาว” ช่วยในการแก้ไขอาการหอบ หลอดลมอักเสบ ใช้ได้กับโรคระบบทางเดินหายใจ ที่ผ่านมามีงานวิจัยโดยใช้หญ้าดอกขาวในคนที่สูบบุหรี่ พบว่าช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออก ไซด์ได้ นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยใช้หญ้าดอกขาวในหนูทดลองที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดเซลล์มะเร็งปอด พบว่าช่วยลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งปอดได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในหญ้าดอกขาวมี
สารโพแทสเซียมสูง ดังนั้นการใช้ในผู้ป่วยโรคไตวายระยะท้ายจึงต้องระมัดระวังสมุนไพรตัวที่ 2 คือ “ขมิ้นชัน” โดยให้ขมิ้นชันกับหนูทดลองก่อนการเผชิญฝุ่น PM2.5 จากนั้นได้มีการพ่นฝุ่นละอองเข้าไปใส่หนูที่อยู่ในกรง พบว่าการใช้ขมิ้นชันช่วยป้องกันไม่ให้ปอด และหลอดลมได้รับความเสียหาย หรือเกิดการอักเสบได้

ทั้งนี้ ขมิ้นชันนับเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู ที่ผ่านมาก็มีการศึกษาพบว่า หากรับประทานขมิ้นชั้นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ช่วยให้สมรรถภาพของปอดดีกว่าคนที่ไม่ได้รับประทานเลย ดังนั้นหากมีการนำขมิ้นชันมาใช้ก็น่าจะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกิดจากฝุ่นละอองได้

สมุนไพรตัวต่อมา คือ “รางจืด” ในทางการแพทย์แผนไทยมองว่า “รางจืดช่วยล้างพิษทั้งปวง” ช่วยลดผลกระทบของโลหะหนักที่มีผลต่ออวัยวะสำคัญ ๆ เช่น ตับ ไต เป็นต้น โดยชงรางจืดเป็น “ชา” 1 ซอง รับประทาน 3 เวลา หรือจะเด็ดใบรางจืดสด ๆ 5-10 ใบ ใส่น้ำพอท่วม ต้มด้วยไฟพอเดือด ดื่ม 3 เวลา ทั้งนี้ในคนที่รับประทานยารักษาโรคประจำตัวอยู่ ควรดื่มชารางจืดห่างจากการรับประทานยาปกติ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันฤทธิ์ของรางจืดไปล้างพิษของยารักษาโรค แต่ไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 1 เดือน

ภญ.อาสาฬา บอกอีกว่า ผลกระทบจากฝุ่นละอองในระยะแรกคืออาการแสบคอ ไอ หายใจไม่สะดวก มีเสมหะ “มะขามป้อม” ก็เป็นสมุนไพรในตระกูลผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงจะช่วยได้ดีในเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลธาตุของร่างกายสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ “ฟ้าทลายโจร”


ซึ่งองค์การอนามัยโลกให้การยอมรับในการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคระบบทางเดินหายใจที่ไม่มีโรคแทรกซ้อนรุนแรง เช่น หวัดไซนัสอักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้มีงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า การกินฟ้าทลายโจร 1 เม็ด ติดต่อกัน 5 วัน ต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 3 เดือน ช่วยลดการป่วยไข้หวัดได้ถึง 30% แต่มีข้อห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงที่กำลังให้นมบุตร





ขอขอบคุณ
ข้อมูล : dailynews


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here