วันนี้ทีมงาน GCLUB มีข้อมูลข่าวสารดีๆ มานำเสนอท่านผู้อ่านทุกท่าน...คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักอยากให้ลูกเรียนดี
หวังจะเห็นลูกน้อยประสบความสำเร็จทั้งด้านการเรียนและการงานในอนาคต
หรืออย่างน้อยก็สามารถเอาตัวรอดได้ในสังคม
จึงพบว่าหลายๆครอบครัวส่งลูกไปเรียนพิเศษตามสถาบันกวดวิชาต่างๆที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน
ซึ่งเด็กหลายคนก็มีผลการเรียนดีขึ้นอย่างที่ผู้ปกครองคาดหวังไว้แต่มีบ่อยครั้งที่พบว่าปัญหาด้านการเรียนของลูกไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเรียนพิเศษเพียงอย่างเดียว
เพราะปัญหาอาจมาจากสาเหตุอื่นๆได้เช่นกัน
ผู้ปกครองจึงควรสังเกตและเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของเด็กให้ได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเรียน
ปัจจัยภายใน
ระดับความสามารถทางสติปัญญา
หรือที่เรียกติดปากว่า IQ ใช้แบ่งความสามารถของเด็กเป็นระดับต่างๆ
ตั้งแต่อัจฉริยะ ฉลาด ปรกติ ต่ำกว่าเกณฑ์ คาบเส้น ไปจนถึงปัญญาอ่อน
ซึ่งระดับสติปัญญาจะบ่งบอกถึงความสามารถในการเรียนรู้ว่าดีเพียงใด
และบอกความสามารถด้านต่างๆที่อาจมีมากน้อยแตกต่างกันไป
ทำให้เห็นจุดแข็งหรือความสามารถที่เด็กถนัด
และจุดอ่อนหรือความสามารถที่ยังต้องพัฒนาอีก
ด้านจิตใจและโรคทางจิตเวชเด็ก
ได้แก่ โรคสมาธิสั้น (ADHD) ความบกพร่องด้านการเรียน (LD)
โรคซึมเศร้า ปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น
ก้าวร้าว เกเร ดื้อ ต่อต้าน ปัญหาการปรับตัว ความกระทบกระเทือนทางจิตใจ เด็กติดเกม
-สุขภาพร่างกาย ปัญหาความเจ็บป่วยทางกาย มีโรคประจำตัว ปัญหาทางสายตา การได้ยิน
ความผิดปรกติทางการเคลื่อนไหว
ปัจจัยภายนอก
การเลี้ยงดู
การขาดอบอุ่น ไม่เคยถูกฝึกระเบียบวินัย การตามใจมากเกินไป
ปัญหาด้านความรุนแรงในครอบครัว กระบวนการเรียนการสอน วิธีการสอนของครู
ห้องเรียนมีเด็กจำนวนมากเกินไปจนครูดูแลได้ไม่ทั่วถึง
รูปแบบการเรียนการสอนไม่น่าสนใจ การขาดสื่ออุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสม
เพื่อนและสัมพันธภาพ
การเข้ากับครูหรือเพื่อนคนอื่นในห้องไม่ได้ การไม่มีเพื่อน การทะเลาะกัน
การคบเพื่อนที่เกเร การถูกชักจูงไปในทางที่ผิด
-สิ่งแวดล้อม สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม สิ่งรบกวนในห้องเรียน
หรือการที่โรงเรียนอยู่ไกลทำให้เด็กต้องเหนื่อยในการเดินทาง
โดยปรกติแล้วเรามักพบปัญหาต่างๆดังที่กล่าวมาหลังจากพบว่าลูกมีผลการเรียนไม่ดี
หรือพบว่าบ่อยครั้งเป็นครูที่พบปัญหาแล้วแนะนำให้ผู้ปกครองพาไปพบแพทย์
ในความเป็นจริงแล้วผู้ปกครองสามารถแก้ปัญหาบางอย่างได้เองก่อน
หากไม่สามารถจัดการได้จึงค่อยส่งมาพบแพทย์เพื่อประเมินและรักษาต่อไป
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : thaihealth






ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น